ข้อมูลจากhttp://www.youtube.com
วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
โลกสวยด้วยมือเรา โลกร้อนเเก้ไขได้
วิธีลดโลกร้อน
ปัจจุบันภาวะโลกร้อน เป็นปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ในแต่ละประเทศ ภูมิภาคต่างๆ และยังทำให้มีผล
กระทบต่อ
1.ด้านภูมิอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ ละลายจนกลายเป็นน้ำ
และเกิดภาวะน้ำท่วมหรืออุทกภัยในประเทศต่างๆ บ่อยมากขึ้น จนทำให้บ้านเมืองเสียหาย และผู้คนล้มตาย
เป็นจำนวนมาก
2.ด้านเศรษฐกิจ พืชผัก ผลผลิตทางการเกษตรไม่ได้คุณภาพและประสิทธิภาพ เพราะการเก็บพืชผัก ผล
ผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว โดยมีผลมาจากด้านภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงลงไปที่ไม่ตามฤดูกาล และยังทำให้พืช
ผัก ผลผลิตที่เตรียมจะส่งออกราคาตกต่ำ เป็นต้น
จึงเป็นที่รู้กันแล้วว่า "ภาวะโลกร้อน" เป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อประเทศไทย และทุกๆ ประเทศ
เยาวชนไทยขอเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดยั้งภาวะโลกร้อน ด้วยมือของเรา ด้วยวิธีการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
1.ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยการใช้ถุงผ้า หรือ ตะกร้า เป็นต้น2.ประหยัดไฟฟ้า เช่น ควรรีดเสื้อผ้าครั้งละหลายๆ ตัว ไม่ควรเปิดโทรทัศน์ พัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ
เมื่อเราไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น และไม่ควรเสียบปลั๊กทิ้งไว้
3.การรีไซเคิล เมื่อเราวาดรูป หรือข้อความ (ตัวหนังสือ) ลงไปในหน้าเดียวบนกระดาษ A4 เมื่อเราทำงาน
นั้นเสร็จ หรือนำไปส่งอาจารย์เมื่อตรวจเสร็จก็นำกลับมาใช้อีกด้านหนึ่งก็ได้
4.ไม่ควรปล่อยมลพิษสู่อากาศ น้ำ และดิน เช่น ไม่ควรทิ้งขยะ หรือเศษอาหารลงสู่แม่น้ำ
5.ควรนำน้ำที่ใช้ประโยชน์ได้อีกมาใช้ เช่น นำน้ำที่ซาวข้าว น้ำซักผ้า มารดต้นไม้
6.ควรประหยัดน้ำ
7.ช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์
8.ควรนั่งรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าไปเพื่อประหยัดน้ำมัน
9.ช่วยปลูกต้นไม้ เพื่ออากาศที่สดใส
ข้อมูลจากhttp://www.youtube.com เเละhttp://www.tonprik.org/paper/1264
วิธีทำกระดุมใช้ด้วยตัวเอง
ภาพแสดงกระดุมแมงมุมที่ทำเสร็จแล้ว อาจใช้แม่เหล็กติดด้านหลังใช้สำหรับติดตู้เย็นก็ได
วิธีการกระดุมรูปแมงมุม
วัสดุที่ต้องใช้
1. กระดุมจำนวนตามต้องการ
2. โดเค็ม ที่ทำเตรียมไว้แล้ว หรือดินน้ำมันสีเขียว ดำ ขาว
3 .วานิชหรือสเปรย์เคลือบเงา
เครื่องมือที่ต้องใช้
1 .แปรงทาสี
2 .มีดคมๆ
3 .ไม้นวดแป้ง
วิธีทำ
1. นำดินน้ำมันมารีดเป็นแผ่นบางๆแล้วตัดออกเป็นรูปวงกลมให้กว้างพอสำหรับที่จะนำมาห่อกระดุมที่เตรียมไว้ จากนั้นจัดการนำดินน้ำมันที่ตัดแล้วห่อกระดุมโดยให้ขอบของดินไปจรดอยู่ด้านหลังกระดุมพยายามรีให้ดูเรียบร้อยที่สุด
2. ใช้ดินสีดำที่เตรียมไว้แล้วมารีดเป็นเส้นบางๆไว้สำหรับทำขาแมงมุม เสร็จแล้ววางเรียงลงบนผิวหน้าดินน้ำมัน ดังรูป
วิธีทำน้ำหอมเเละผงดูดกลิ่นใช้เอง
ส่วนผสม
1. หัวน้ำหอม 2 ออนซ์.
2. แอลกอลฮอล 1 ขวด
3. น้ำมันมาส 0.5ออนซ์
ส่วนผสม
1. โซดาไบคาร์ยบอเนต 500 กรัม
2. ผงถ่านบด 500 กรัม
นำส่วนผสมทั้งสองอย่างมาคลุกให้เข้ากันนำมาแบ่งใส่ห่อผ้าเป็นห่อๆ ห่อละ 100 กรัม นำไปวางไว้มุมใดมุม
วิธีทำผลิตภันณ์ของใช้ด้วยตัวเอง
มาลองทำดูนะ
1 . พาราฟิน 15 กรัม
4 . ผงการบูน 2.50 กรัม
1. เมนทอล 27.78 กรัม
2. พิมเสน 27.78 กรัม
3 .การบูร 27.78 กรัม
4 .ยูคาลิปตัส 13.89 กรัม
5 .น้ำมันแร่ (mineral oil)2.77 กรัม
นำเมนทอล,พิมเสน,การบูร ใส่ในภาชนะรวมกันแล้ว ให้นำน้ำมันแร่ตั้งไฟให้อุ่น ๆ แล้วเทใส่ลงไป
1. เมนทอล 55.45กรัม.
2. การบูร 4.95กรัม
3. เปปเปอร์มิ้นท์ 3.96กรัม
4. พิมเสน 9.90กรัม
5. ยูคาลิปตัส 5.94กรัม
6. น้ำมันแร่ 19.80กรัม
วิธีทำ
วิธีทำผลิตภันณ์ของใช้ด้วยตัวเอง
วิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตร 1
ส่วนผสม
1 . SOFTEX-A 1 กก.
2. น้ำสะอาด 15 กก.
3 . น้ำหอม2.5 ออนซ์ (จำหน่ายเป็นออนซ์)
4. สีพอประมาณ
วิธีทำ นำน้ำ 15 กก. ตั้งไฟให้เดือด จากนั้นค่อยๆใส่ SOFTEX-A ลงไปอย่างช้าๆพร้อมกับคนไป
ด้วย (ใส่ทีละมากๆจะเป็นก้อน) คนจนจนหมดแล้วยกลงจากเตา ทิ้งให้อุ่นๆจึงใส่กลิ่นและสีตามต้อง
การ ถ้าใส่กลิ่นขณะร้อนเกินไปกลิ่นจะระเหยหมด
วิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่ 2
ส่วนผสม
1 . โซฮาร์ซอฟท์ 1 dd.
2 . น้ำกลั่น 7 ลิตร
3 .น้ำหอม 2ออนซ์
4 .ไอ พี เอ 2ออนซ์
5 .สี 1ห่อ
6. PEG 6000 DI 1ขีด
วิธีทำ
เทน้ำกลั่นใส่กะละมัง เติมโซฮาร์ซอฟท์ทีละน้อยกวนให้เข้ากัน เติมน้ำหอม ไอพีเอ สี กวนต่อจนเป็น
เนื้อเดียวกัน นำ PEG 6000 DI ละลายกับน้ำร้อนแล้วเทเติมลงในส่วนผสม กวนไปเรื่อยๆจนข้นแล้วเติมน้ำ
อีก 5 ลิตร
วิธีทำน้ำยาล้างจาน
ส่วนผสม
1 . WATER 300 กรัม
2. LA 4019.8 4กรัม
3. หัวแชมพู 6กรัม
4. COMPERLAN KD3.9 7กรัม
5. SCPG 520 0.79กรัม
6. PERFUME LEMON0.40
7. เกลือ 7.5 4 กรัม
1. ละลาย LA 40 กับน้ำ คนจนละลายให้เข้ากัน (ใช้ความร้อนได้เล็กน้อยเพื่อให้ละลายง่ายขึ้น)
2. เติมหัวแชมพู + COMPERLAN KD ลงไปคนให้เข้ากัน จนแน่ใจว่าเข้ากันดี
3. เติม SCPG 520 ลงไปคนให้เข้ากัน
4. เติมกลิ่นมะนาว ลงไปคนให้เข้ากัน
5. เติมเกลือที่ละลายด้วยน้ำร้อน คนให้เข้ากัน (จะหนืดขึ้น) ก็จะได้น้ำยาล้างจานตามต้องการ
สูตรน้ำยารีดผ้า
ส่วนผสม
1. WATER29 31 กรัม
2. PVA 24 กรัม
3. PEG 600 15 กรัม
4 . SCPG 520 12 กรัม
5 . TWEEN20 15กรัม
6 . PERFUME FILINE 3กรัม
วิธีทำ
1. PVA (ช่วยให้ผ้าเรียบ) ผสมน้ำคนจนละลายให้เข้ากัน จน PVA ละลายหมด ให้ความร้อนในขณะ
คนให้เข้ากัน
2. รอให้เย็น เติม PEG 600 คนให้เข้ากัน
3. เติม กันบูด SCPG 520 คนให้เข้ากัน
4. เติม TWEEN 20 + น้ำหอม คนให้เข้ากัน
สูตรทำน้ำยาซักเเห้ง
ส่วนผสม
1. หัวแชมพู 8000 1 กก.
2. ผงข้น 1 ขีด
3. น้ำหอม จิแปร์ตามารี 1 ออนซ์
4. น้ำกลั่น 1 ลิตร
วิธีทำ เอาน้ำใส่กาลามังแล้วเอาหัวแชมพูใส่ลงไป กวนจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และเติม น้ำหอม ผงข้น
กวนต่อไปจนเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้านำไปใช้กีบเครื่องซักผ้า ให้เติมน้ำยากำจัดฟอง 1 ออนซ์ด้วย
ข้อมูลทั้งหมดจาก http://www.archeep.com
วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
เทคนิคการป้องกันตัว
1 . เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้ ข้อศอกเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกายหากถูกทำร้ายหรือกำลังจะ
ถูกทำ ร้ายและคุณอยู่ในระยะที่ใกล้พอ จงใช้ข้อศอกให้เป็นประโยชน์(ถองกบาลหรือกกหูมันแรงๆ )
2. ข้อแนะนำจากหนังสือแนะนำนักท่องเที่ยวเมืองนิวออร์ลีนส์หากถูกโจรจี้และขอกระเป๋าถือหรือกระเป๋า
สตางค์อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร แต่ให้เขวี้ยงกระเป๋าไปไกลๆเพราะเป็นไปได้ว่าเจ้าโจรนั่นอาจสนใจเงินหรือข้าว
ของในกระเป๋ามากกว่าตัวคุณมันจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าที่คุณโยนออกไปทันที ทีนี้ก็จงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปใน
ทิศทางตรงกันข้าม
3. ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถพยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออกจากนั้นยื่นแขนออกมาจากรูโหว่
แล้ว โบกสุดฤทธิ์คนขับมองไม่เห็นคุณแต่รับรองชาวบ้านเห็นแน่ๆ วิธีนี้ช่วยชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว
4. อย่านั่งแช่ในรถ สาวๆ ทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจช้อปปิ้ง กินข้าว เลิกงาน ฯลฯก้าวขึ้นรถแล้วก็มักจะ
นั่งแช่ ทำอะไรต่อมิอะไรกระจุกกระจิก เป็นต้นว่า ดูสมุดบัญชี จดลิสต์รายการข้าวของหรือเรื่องที่จะต้องทำ
หรืออื่นๆ ขอเตือนว่าอย่าทำเช่นนี้เป็นอันขาด ผู้ร้ายอาจกำลังจับตาเฝ้าดูคุณอยู่การที่นั่งจ่อมอยู่อย่างนี้
แหละจะเป็นโอกาสอันงามที่มันจะก้าวขึ้นมานั่งในรถข้างๆ คุณเอาปืนจี้แล้วสั่งให้พาไปไหนต่อไหน เพราะ
ฉะนั้นก้าวขึ้นนั่งในรถเมื่อไรให้รีบล็อคประตูแล้วออกรถทันที
วิดีทัศน์เเสดงเเนวทางป้องกันตัว
5. ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆเมื่อคุณต้องเดินไปยังรถที่จอดในลานจอดรถ โรงจอดรถ หรืออาคารที่
จอดรถ
ก. ประสาทตื่นตัว หมั่นสำรวจรอบตัว มองข้างในรถทั้งที่นั่งข้างคนขับ พื้นรถรวมถึงเบาะหลังด้วย
ข. ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสารผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวยโอกาสจังหวะ
ที่เหยื่อกำลังเปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้
ค. ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณทั้งฝั่งซ้ายและขวาหากมีผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะด้านที่ใกล้รถคุณควรหลีก
เลี่ยงด้วยการเดินกลับเข้าไปในห้างหรือที่ทำงานแล้วขอให้เจ้าหน้าที่ห้างหรือรปภ. หรือเพื่อนชายเดินกลับมา
ส่งที่รถ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าต้องเสียใจทีหลัง (โดนหาว่าประสาทดีกว่าต้องซี้ม่องเซ็ก)
6. ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได บันไดเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดถ้าอยู่คนเดียวรวมทั้งเป็นจุดที่เกิด
อาชญากรรมได้ดีที่สุด
7. หากผู้ร้ายมีปืน และคุณยังไม่ได้ถูกจี้ วิ่งหนี! โอกาสที่มันจะยิงโดนคุณมีเพียง 4 ใน100ครั้งเท่านั้น (เป้า
เคลื่อนที่) และถึงจะยิงโดนก็เป็นไปได้มากว่าจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญ เพราะงั้นวิ่งลูกเดียว!
8. ผู้หญิงมักใจอ่อน ขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจไม่ต้องเลยเพราะอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย ข่มขืนหรือ
ฆาตกรรมได้ กรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้วฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในอเมริกาชื่อ เท็ด เบินดี้มเป็นชายหนุ่มหน้าตา
ดี มีการศึกษามักใช้กลวิธีเรียกร้องความสงสารจากเหยื่อเพศหญิงซึ่งไม่ได้เกิดความสงสัยสักนิดเขาหลอก
ลวงเหยื่อให้ตายใจด้วยการเดินโดยอาศัยไม้เท้า หรือแสร้งทำขากะเผลกจากนั้นจะขอ “ความช่วยเหลือ”
จากเหยื่อขอให้ช่วยพยุงขึ้นรถจากนั้นก็ใช้จังหวะนั้นลักพาตัวไป
ข้อมูลจาก http://www.212cafe.com/ เเละ http://www.youtube.com/
วิธีการป้องกันตัวของผู้หญิง
เหตุการณ์ตัวอย่างของภัยใกล้ตัว
ปัจจุบันนี้ อันตรายรอบตัวผู้หญิงมีมากมาย วันนี้นำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการป้องกันตัวมาบอก...
1. เมื่อคนร้ายเข้าประชิดตัวเกิน 2 ก้าว ให้ถีบเท้าซ้ายหรือขวาไปที่กระดูกขาท่อนบน หัวเข่าหรือหน้าแข้ง
หากคนร้ายผลีผลามเข้าถึงตัว ใช้สันมือฟันไม่ยั้งไปที่ซอกคอหรือฟันไปที่ริมฝีปาก ดั้งจมูก คอ ไหปลาร้า
กกหูหรือใช้สันมือกระแทกยันคางให้คนร้ายหงายหลัง
2. เมื่อคนร้ายจับมือไว้ข้างหนึ่งขณะนั่ง ยืนหรือเดิน ใช้มือที่เหลือจับนิ้วก้อยมือคนร้ายข้างที่จับเราอยู่
กระชากหันกลับขึ้น อย่างเร็วและแรง
3. เมื่อคนร้ายจับมือทั้ง 2 ข้างทางด้านหน้า ให้ดึงมือกลับ โดยบิดข้อมือขึ้น ให้หันฝ่ามือเข้ากันแล้วดึงมือ
เข้าหาตัว จากนั้นตวัดมือข้างถนัดขึ้นสูง แล้วใช้สันมือฟาดลงบนดั้งจมูกคนร้ายอย่างแรง จากนั้นเตะที่หัว
เข่าหรือหน้าแข้งคนร้ายอีกครั้ง
4. เมื่อคนร้ายจับมือทั้ง 2 ข้างไว้ด้านหลัง ให้เกร็งข้อมือไปด้านหน้า แล้วเหลียวดูเข่าคนร้ายเพื่อถีบไปที่หัว
เข่าอย่างแรง
5. เมื่อคนร้ายเข้ามากอดด้านหน้า ให้สอดแขนข้างถนัดขึ้น แล้วใช้สันมือกระแทกใต้คางคนร้ายพร้อมใช้เข่า
กระแทกท้องน้อย หรือเป้ากางเกงซ้ำ
6. เมื่อคนร้ายเข้ามากอดด้านหลัง ให้กระทุ้งศอกไปบริเวณลิ้นปี่หรือท้อง แล้วเบี่ยงตัวออกด้านข้างเล็กน้อย
ยกศอกกระแทกไปที่คางหรือคอ ถ้าถูกกอดเหนือไหล่ ให้ใช้ศอกกระแทกที่ท้องแล้วกระทืบส้นเท้าไปมาบน
หลังเท้าคนร้าย
7. เมื่อคนร้ายใช้ปืนหรือมีดจี้ทางด้านหลัง ให้หมุนตัวกลับเผชิญหน้ากับคนร้าย โดยเหวี่ยงเท้าขวาพร้อมใช้
มือซ้ายปัดแขนคนร้ายออกด้านข้าง จากนั้นใช้สันมือขวาฟันไปที่ซอกคอคนร้าย อย่างแรง
8. เมื่อคนร้ายเข้ามาจะตบหน้า ให้ถอยหลังไป 1 ก้าว แล้วใช้เท้าอีกข้างถีบหน้าอก ท้องน้อยหรือเป้ากางเกง
คนร้าย
9. เมื่อคนร้ายขึ้นนั่งคร่อมขณะนอนหงาย ให้ใช้สันมือยันคางและใช้อีกมือต่อยบริเวณลูกกระเดือก จิ้มลูกตา
หรือทำร้ายจุดอ่อนอื่นบริเวณใบหน้า จากนั้นพลิกตัวหนี
10. เมื่อคนร้ายเข้ามาจับคอเสื้อหรืออกเสื้อ ให้ใช้มือขวาของเราจับหลังมือคนร้าย โดยให้นิ้วหัวแม่มืออยู่
ระหว่างง่ามนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ของคนร้าย แล้วพลิกมือหงายออกพร้อมใช้มือดันศอกคนร้าย พลิกกลับขึ้น
อย่างรวดเร็ว จากนั้นดึงแขนคนร้ายเหวี่ยงไปทางขวาและกดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
11. เมื่อคนร้ายบีบคอด้านหน้า ให้เกร็งลำคอไว้แล้วประสานมือยกขึ้นกระแทกมือคนร้ายให้ออกจากกัน
พร้อมกระแทกส้นเท้าที่หน้าแข้งคนร้ายอย่างแรง เมื่อคนร้ายปล่อยมือให้กระแทกส้นเท้าลงที่เข่าคนร้ายอีก
ครั้ง
12. เมื่อคนร้ายบีบคอด้านหลัง ให้ใช้มือทั้ง 2 ข้าง จับนิ้วมือคนร้ายแล้วดึงออก เบี่ยงลำตัวออกไปด้านข้าง
พร้อมกับยกส้นเท้ากระแทกไปที่เข่าหรือหน้าแข้ง แล้วใช้กำปั้นทุบที่เป้ากางเกงคนร้าย
13. เมื่อคนร้ายจิกหรืกระชากผม ให้ประสานมือทั้งสองยกขึ้นวางทับมือคนร้ายที่จิกผม แล้วกดมือคนร้ายลง
พร้อมหมุนตัวทางขวา เพื่อบิดข้อมือคนร้าย จากนั้นใช้เท้ากระแทกที่หน้าแข้งหรือหลังเท้าคนร้ายอย่างไรก็
ตาม การระมัดระวังตัว เป็นสิ่งแรกที่ควรจะทำ เพื่อความปลอดภัยของผู้หญิง.
ข้อมูลจาก
http://www.youtube.com/ เเละ http://sar.hatyaiwit.ac.th/articles.php?lng=th&pg=862
หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน
1. ศูนย์กู้ภัยโยธิน Tel. 0-2901-6232 กด 0
2. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง Tel. 0-2226-4444
3. มูลนิธิร่วมกตัญญู Tel.0-2751-0951
4. ศูนย์หัวเฉียวพิทักษ์ชีพ รพ.หัวเฉียวTel.0-2223-1774
5. ศูนย์กู้ชีพนเรนทร รพ.ราชวิถี Tel.0-2248-2222
6. ศูนย์ส่งกลับ รพ.ตำรวจ Tel.0-2255-1133 - 6 ,1691
7. ศูนย์นเรนทร Tel.1669
8. หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล Tel.1554
แจ้งเหตุรายการวิทยุ
1. สถานีวิทยุ ร่วมด้วยช่วยกัน, Tel. 0-2644-6996 , 1677
2. สถานีวิทยุ สวพ.91, Tel.0-2562-0033 -5 ,1664
3. สถานีวิทยุ จส.100 Tel. 0-2383-9191 - 9 ,1137
แจ้งเหตุด่วน ฉุกเฉิน
1. ตำรวจนครบาล Tel. 191 , 0-2246-1338 –42
2. ตำรวจดับเพลิง Tel. 199
3. ตำรวจทางหลวง Tel. 1193
4. ตำรวจท่องเที่ยว Tel. 1155
5. เหตุฉุกเฉิน อาชญากรรม กองปราบปราม Tel. 1195
6. ศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ Tel. 1691 , 0-2255-1133-6
7. สายด่วนอาชญากรรม จังหวัดชายแดนภาคใต้ Tel. 1340
8. ศูนย์รับแจ้งข่าวยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Tel. 1688
9. ศูนย์แจ้งอุบัติภัย กองทัพเรือ Tel. 1696
10. แจ้งเหตุทางน้ำ กองบัญชาการตำรวจ Tel. 1196
11. แจ้งเหตุด่วนทางน้ำ ศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ Tel.1199
12. แจ้งเหตุฉุกเฉิน อุบัติภัยสารเคมี กรมควบคุมมลพิษ Tel. 1650
13. ศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน 24 ชม. Tel. 0-2226-4444
14. สายด่วนแจ้งเหตุสาธารณภัย (ปภ.) ตลอด 24 ชั่วโมง Tel.1784
15. ศูนย์รับแจ้งเด็กหาย Tel. 0-2282-1815
16. ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ กทม. ตลอด 24 ชั่วโมง Tel.1555
17. ศูนย์วิทยุกรุงธน Tel. 0-2455-0088
18. ศูนย์วิทยุรามา Tel. 0-2246-0999
ข้อมูลจาก http://www.ubmthai.com/
วิธีตรวจดูเช็คช่วยชาติ ..จริง-ปลอม???
โดยผู้ได้รับเช็คช่วยชาติสามารถตรวจสอบด้วยวิธีสังเกตใน 4 จุดหลัก ได้แก่
1. จุดที่หนึ่ง ตัวอักษร ‘เช็คช่วยชาติ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก’ พิมพ์เป็นลายเส้นนูน สีน้ำเงิน ดำ และแดง เหลือบกัน เมื่อ
สัมผัสด้วยปลายนิ้วมือจะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์ที่อยู่บนผิวกระดาษ
2. จุดที่สอง สัญลักษณ์ ‘฿’ ช่องจำนวนเงิน พิมพ์เป็นตัวนูน สีทองและแดงเหลือบกัน
3. จุดที่สาม เมื่อนำเช็คไปส่องกับแบล็คไลท์ จะปรากฏตราสัญลักษณ์รูปดอกบัวของธนาคารกรุงเทพตรงกลางเช็ค
4. จุดที่สี่ ขอบเช็คต้องมีรอยปรุ 2 ด้าน ได้แก่ ด้านบนและด้านล่าง
วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การอัปโหลดรูปภาพจาก picasa ลงใน Blogger
2. คลิกที่ ดูบล็อก
จะปรากฎบล็อกของคุณ
จากนั้นคลิก บทความใหม่
3.เข้าไปที่ http://www.gmail.com/ และลงชื่อเข้าใช้ Gmail ด้วยบัญชีของคุณ
4.คลิกเข้าไปที่ ภาพถ่าย เพื่อดูอัลบัมรูปที่เคยอับโหลดไว้แล้ว
5.เลือกอัลบัมรูปที่ต้องการ แล้วคลิกเข้าไปดู
6. คลิกที่ เชื่อมโยงไปยังอัลบัมนี้ และคลิกที่ Embed slideshow เพื่อเลือกขนาด และดูตัวอย่าง slide เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้วให้ทำการคัดลอกโค๊ด และคลิกที่ เสร็จเรียบร้อย
7. นำโค๊ดที่คัดลอกมาวางในบทความใหม่ ที่สร้างไว้ในข้อที่ 2 โดยคลิกที่ แก้ไข Html ก่อนวางโค๊ด
พร้อมกับตั้งชื่อบทความ และป้ายกำกับให้เรียบร้อย
8.คลิกดูตัวอย่าง slide ได้ที่ เขียน จากนั้นคลิกที่ เผยเเพร่บทความ
9. เมื่อเผยแพร่บทความเสร็จแล้ว อัลบัมก็จะปรากฎบนบล็อกของคุณ
วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552
วิธีตรวจสอบธนบัตรปลอม
ข้อมูลจาก ธนาคารเเห่งประเทศไทยhttp://www.bot.or.th/
เเละ http://www.youtube.com/
วิดีทัศน์ วิธีตรวจสอบเเบงค์ปลอม
วิธีสังเกตุเเบงค์ 1000 ปลอม
จุดสังเกตุเเบงค์ปลอม
1.ลายน้ำ พระบรมสาทิสลักษณ์ มองเห็นได้ชัดเจน เมื่อยกส่องกับแสงสว่าง และรูปลายไทยจะโปร่งแสงเป็นพิเศษ
2.แถบสีโลหะในเนื้อกระดาษ นำเนื้อกระดาษตามแนวตั้ง เมื่อยกส่องกับแสงสว่าง จะเห็นตัวเลขและตัวอักษรโปร่ง
แสง
3.พิมพ์เส้นนูน พระบรมสาทิสลักษณ์ ตัวอักษรและตัวเลขแจ้งราคา เมื่อสัมผัสด้วยปลายนิ้วจะรู้สึกสะดุด
4.ตัวเลขแฝง ซึ่งอยู่ในลายไทย มองเห็นได้เมื่อยกธนบัตรเอียงเข้าหาแสงสว่าง โดยมองจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่ง
กลางธนบัตร
5.ภาพซ้อนทับพิมพ์แยกส่วนไว้บนด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อยกส่องกับแสงจะมองเห็นภาพสวยงาม โดยแบงก์พัน
จะเป็นรูปดอกบัว แบงก์ 500 เป็นรูปดอกพุดตาล แบงก์ 100 เป็นตัวเลข 100 แบงก์ 50 เป็นตัวเลข 50
แบงก์ 20 เป็นตัวเลข 20
6.ตัวเลขจิ๋ว บรรจุในตัวเลขไทยด้านหน้า มองเห็นได้ชัดเจนด้วยแว่นขยาย
7.แทบฟอยล์ สีเงินมองเห็นเป็นหลายมิติ และสะท้อนแสงเมื่อพลิกไปมา
8.หมึกพิมพ์พิเศษ ตัวเลข 1000 จะมองเห็น ด้านบนสีทอง ด้านล่างสีเขียว เมื่อพลิกขอบล่างขึ้นจะเห็นเป็นสี
เขียวทั้งหมด ส่วนแบงก์ 500 ตัวเลข 500 จะมองเห็นตัวเลขสีเขียว เมื่อพลิกขอบล่างจะมองเห็นเป็นสีม่วง นอก
จากนี้ ยังมีวิธีนำบริเวณลอยนูนของแบงก์ เช่น คำว่ารัฐบาลไทย ถูกับกระดาษสีขาว ของจริงจะปรากฏสีให้เห็น
วิธีสังเกตุเเบงค์ 500 ปลอม
จุดสังเกตธนบัตร 500 ปลอม
1. แถบเงินตัวสะท้อนแสง
2. มีลักษณะเหมือนถูกรีดลงไปทับตราครุฑ แล้วลายจะไม่ชัดเจน
3. สีสันจะไม่สวยเหมือนของจริง
4. ของปลอมจะไม่สะท้อนแสงแล้วสีสันไม่สดใส
5. ลายน้ำจะเห็นรูปพระลักศณ์ไม่ชัดเจนเมื่อส่องแสง
6. เนื้อกระดาษจับดูสาก ๆ
7. เมื่อธนบัตรถูกน้ำแล้วสีจะละลาย
จุดสังเกตธนบัตรจริง
1.จะมีเลข 500 แสดงอยู่ตลอดแถบเงิน
2.สีสรรจะคมชัดแล้วสวยกว่าของปลอม
3.ของจริงจะสะท้อนแสงสีสันจะดูสดใสกว่า
4.เนื้อกระดาษจะลื่นกว่าของปลอม
5.เมื่อธนบัตรถูกน้ำแล้วสีจะไม่ละลาย
วิธีสังเกตเเบงค์ 100 ปลอม
จุดสังเกตุ
1. เมื่อยกส่องกับเเสงสว่างจะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาทิสลักษณ์ชัดเจนทั้งด้านหน้าเเละด้านหลังเเละรูปลาย
ประจำยามโปร่งเเสงเป็นพิเศษ
2.เมื่อสัมผัสด้านปลายนิ้วมือจะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์ที่อยู่บนผิวกระดาษ
3. เเถบฟอยล์สีเงินรูปพระราชอัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่เก้า เเนบเป็นเนื้อเดียวกันกับกระดาษมองเห็นเป็น
หลายสีหลายมิติเมื่อพลิกเอียงธนบัตรไปมา
4. เมื่อเอียงธนบัตรเข้าหาเเสงสว่างเเละมองจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตร จะเห็นตัวเลขอารบิก 100
5. ที่ตัวเลขด้านหน้าธนบัตรบรรจุตัวเลขร้อยขนาดจิ๋ว มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อใช้เเว่นขยาย
6. เมื่อยกส่องกับเเสงสว่างจะเห็นเเถบสีโลหะฝังในเนื้อกระดาษตามเเนวตั้ง บนเเถบมีตัวเลขจิ๋วเเสดงชนิดราคา
ธนบัตร
ลักษณะที่ปรากฏณ์ภายใต้รังสีเหนือม่วง
1. มีเส้นใยเรืองเเสง สีเเดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ในเนื้อกระดาษ
2. หมวดอักษรเเละเลขหมาย เปลี่ยนจากสีเเดงเป็นสีส้มเรืองเเสง
3. บริเวณลายประดิษฐ์ตอนกลาง เเละลายเส้นรอบพระราชอัญจกรเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีเขียวเรืองเเสง
วิธีสังเกตเเบงค์ 50 ปลอม
วิธีสังเกตุ
1. เมื่อยกส่องกับเเสงสว่างจะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาทิสลักษณ์ชัดเจนทั้งด้านหน้าเเละด้านหลังเเละรูปลายประ
ดอกโปร่งเเสงเป็นพิเศษ
2. เมื่อสัมผัสด้านปลายนิ้วมือจะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์ที่อยู่บนผิวกระดาษ
3. ตัวเลข 50 พิมพ์เเยกไว้ทั้งด้านหน้าเเละด้านหลัง เมื่อส่องกับเเสงสว่างจะซ้อนทับกันเป็นตัวเลข 50
ที่สมบูรณ์
4. เมื่อเอียงธนบัตรเข้าหาเเสงสว่างเเละมองจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตร จะเห็นตัวเลขอารบิก 100
5. ที่ตัวเลขด้านหน้าธนบัตรบรรจุตัวเลขร้อยขนาดจิ๋ว มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อใช้เเว่นขยาย
6. เมื่อยกส่องกับเเสงสว่างจะเห็นเเถบสีโลหะฝังในเนื้อกระดาษตามเเนวตั้ง บนเเถบมีตัวเลขจิ๋วเเสดงชนิดราคาธนบัตร
ลักษณะที่ปรากฏณ์ภายใต้รังสีเหนือม่วง
1. มีเส้นใยเรืองเเสง สีเเดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ในเนื้อกระดาษ
2. หมวดอักษรเเละเลขหมาย เปลี่ยนจากสีเเดงเป็นสีส้มเรืองเเสง
3. บริเวณลายประดิษฐ์ตอนกลาง เเละลายเส้นรอบพระราชอัญจกรเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีเขียวเรืองเเสง
ลักษณะที่ปรากฏณ์ภายใต้รังสีเหนือม่วง
1. มีเส้นใยเรืองเเสง สีเเดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ในเนื้อกระดาษ
2. หมวดอักษรเเละเลขหมาย เปลี่ยนจากสีเเดงเป็นสีส้มเรืองเเสง
3. บริเวณลายประดิษฐ์ตอนกลาง
วิธีสังเกตุเเบงค์ 20 ปลอม
จุดสังเกตุ
1. เมื่อยกส่องกับเเสงสว่างจะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาทิสลักษณ์ชัดเจนทั้งด้านหน้าเเละด้านหลังเเละรูปลายประ
ดอกโปร่งเเสงเป็นพิเศษ
2. เมื่อสัมผัสด้านปลายนิ้วมือจะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์ที่อยู่บนผิวกระดาษ
3. ตัวเลข 20 พิมพ์เเยกไว้ทั้งด้านหน้าเเละด้านหลัง เมื่อส่องกับเเสงสว่างจะซ้อนทับกันเป็นตัวเลข 20 ที่
สมบูรณ์
4. เมื่อเอียงธนบัตรเข้าหาเเสงสว่างเเละมองจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตร จะเห็นตัวเลขอารบิก 20
5. ที่ตัวเลขด้านหน้าธนบัตรบรรจุตัวเลขร้อยขนาดจิ๋ว มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อใช้เเว่นขยาย
6. เมื่อยกส่องกับเเสงสว่างจะเห็นเเถบสีโลหะฝังในเนื้อกระดาษตามเเนวตั้ง บนเเถบมีตัวเลขจิ๋วเเสดงชนิดราคา
ธนบัตร
ลักษณะที่ปรากฏณ์ภายใต้รังสีเหนือม่วง
1. มีเส้นใยเรืองเเสง สีเเดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ในเนื้อกระดาษ
2. หมวดอักษรเเละเลขหมาย เปลี่ยนจากสีเเดงเป็นสีส้มเรืองเเสง
3. บริเวณลายประดิษฐ์ตอนกลาง
ข่าวจากเหตุการณ์เเบงค์ปลอมเเละวิธีสังเกตุ http://www.youtube.com/
ดูดีๆนะคะเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ระวังเจอเเบงค์ปลอมนะ